[บันทึกช่วยจำ] การเตรียมสถานีทดลอง IoT งาน ม.อ.วิชาการ (การเปิด-ปิด ไฟด้วย Relay)
ควบคุมการเปิด-ปิด ไฟด้วย Relay
ผลสัมฤทธิ์
- การเปิด-ปิด ไฟ ของ runlinc ด้วยการใช้ Relayที่บอร์ดได้
อุปกรณ์
- บอร์ด Runlinc E32W
- โมดูลจ่ายไฟบอร์ดทดลอง 3.3VDC, 5VDC
- ถ่าน 3 VDC
- Relay 5VDC
- หลอดไฟ 3 VDC
- สายไฟ
วิธีการต่อวงจร
รูปที่ 1 กรณีใช้โมดูลจ่ายไฟ (5 Vcd)
รูปที่ 2 กรณีใช้ไฟเลี้ยงจากบอร์ด Runlinc (ขา VIN)
วิธีการเชื่อมต่อ
- ที่เครื่องโน้ตบุค ให้เปิดใช้งาน Mobile hotspot (settings > Network & internet > Mobile hotspot) กำหนดชื่อ SSID: runlinc, Password: runlinc1234, Band: 2.4 GHz รอสักครู่จะมีอุปกรณ์เข้ามาเชื่อมต่อ
- เปิดเบราเซอร์เข้าเว็บเพจสำหรับเขียนคำสั่งควบคุมอุปกรณ์ที่ http://192.168.137.xxx/control.html โดย xxx คือหมายเลขอุปกรณ์ที่อยู่บนสติกเกอร์สีเหลือง จากนั้นให้ทำดังนี้
- กำหนดบอร์ดที่ใช้เป็น ESP32
- ที่ Port D2 ตั้งค่า DIGITAL_OUT ตั้งชื่อ Relay เพื่อกำหนดให้โมดูล Relay เป็น output
- ที่ CSS
.container {
display: flex;
flex-direction: column;
align-items: center;
padding: 20px;
font-family: Arial, sans-serif;
}h1 {
color: #333;
}button {
padding: 10px 20px;
margin: 10px;
border: none;
border-radius: 5px;
color: white;
font-size: 16px;
cursor: pointer;
transition: background-color 0.3s ease;
}#onButton {
background-color: #4CAF50;
}#offButton {
background-color: #f44336;
}#onButton:hover {
background-color: #367c39;
}#offButton:hover {
background-color: #d32f2f;
}#status {
margin-top: 20px;
font-size: 18px;
}#relayStatus {
font-weight: bold;
}
- ที่ HTML
<div class="container">
<h1>Relay Control</h1>
<button id="onButton" onclick="turnOnRelay()">Turn On</button>
<button id="offButton" onclick="turnOffRelay()">Turn Off</button>
<div id="status">Relay is currently: <span id="relayStatus">OFF</span></div>
</div> - ที่ JavaScript
function turnOnRelay() {
turnOn(Relay);
document.getElementById('relayStatus').innerText = 'ON';
}function turnOffRelay() {
turnOff(Relay);
document.getElementById('relayStatus').innerText = 'OFF';
}
🔌 ประโยชน์ของการใช้ Relay เปิด–ปิดไฟ
1. ควบคุมไฟฟ้าระยะไกล
1.1.สามารถเปิด–ปิดไฟผ่านมือถือ คอมพิวเตอร์ หรือ Web UI ได้
1.2.ไม่จำเป็นต้องไปกดสวิตช์ที่ตัวอุปกรณ์โดยตรง2. ประหยัดพลังงาน
2.1.สามารถตั้งเวลา (Scheduling) เปิด–ปิดไฟอัตโนมัติ เช่น ปิดไฟหลังเลิกงาน
2.2. ลดการลืมปิดไฟ ช่วยประหยัดค่าไฟ3. เพิ่มความสะดวกสบาย
3.1. สั่งงานผ่าน WiFi, Line Notify, Telegram หรือระบบอัตโนมัติอื่น ๆ
3.2.ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ เช่น เปิดไฟอัตโนมัติเมื่อมีคนเดินผ่าน (PIR Sensor)4. ปลอดภัยมากขึ้น
4.1.ใช้ระบบตรวจสอบ (Monitoring) และแจ้งเตือน หากมีการใช้ไฟผิดปกติ
4.2. ควบคุมไฟแรงดันสูงผ่านวงจรแรงดันต่ำ (Relay แยกการทำงาน)🚀 การต่อยอด
1. ระบบ Smart Home
1.1. ควบคุมไฟทั้งบ้านผ่านมือถือ
1.2. รวมกับระบบล็อกประตู, แอร์, พัดลม ฯลฯ2. ระบบอัตโนมัติในสำนักงาน / โรงงาน
2.1. เปิด–ปิดไฟโรงงานตามเวลาเข้า–เลิกงาน
2.2. ปรับใช้กับเครื่องจักรที่ต้องการการควบคุมจากระยะไกล3. การทำงานร่วมกับ Sensor อื่น ๆ
3.1. Motion Sensor → เปิดไฟเมื่อมีการเคลื่อนไหว
3.2. Light Sensor → เปิดไฟเฉพาะตอนกลางคืน
3.3. Temperature Sensor → ใช้กับพัดลม/แอร์4. ระบบแจ้งเตือนและบันทึกข้อมูล
4.1 เก็บ Log การเปิด–ปิดไฟ
4.2. แจ้งเตือนผ่าน Line Notify / Telegram เมื่อไฟถูกเปิดหรือปิด
5. ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar)
5.1. ควบคุมการใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์
5.2. ปรับสมดุลโหลดเมื่อมีการใช้ไฟฟ้าสูง✅ สรุปประโยชน์ที่ได้รับ
1. ควบคุมไฟได้จากระยะไกล
2. ลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง
3. เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัย
4. รองรับการทำงานอัตโนมัติและระบบ Smart Home/Smart Office
5. ต่อยอดเชื่อมต่อกับ IoT, Cloud, Dashboard ได้
- Log in to post comments
- 44 views